แต่ละมหาวิทยาลัย หลักสูตรไม่เหมือนกันเลยนะค่ะ ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสิทร์ วิทยเขตวังไกลกังวลจะเรียน
รูปเด็กสาระ นอกจากมีความฉลาดยังมีความเกรียน
1. เรียนให้ถึงราก เช่น เรียนเขียนโปรแกรม ไม่ใช่เรียนว่าภาษานี้ คำสั่งนี้ทำอย่างไร แต่เรียนว่าหลักการเขียนโปรแกรม เป็นอย่างไร เรียนให้เข้าใจ อัลกอริธึม เมื่อเรียนถึงรากฐาน เวลาทำงานจริงๆ จะเลือกภาษาอะไรในการเขียนก็ย่อมทำได้ บางบริษัทใช้ JAVA บางบริษัทใช้ ABAP บางที่ใช้ PHP บางที่ใช้ .ASP บางที่ใช้ C++ ถ้าน้องเรียนถึงราก ไม่ต้องไปเรียนมันสักภาษา แต่น้องจะสามารถเรียนรู้ทุกภาษาการโปรแกรมได้อย่างรวดเร็ว
2. เรียนให้รู้จักวิเคราะห์ นักเทคโนโลยีสารสนเทศที่ดี ไม่ว่าจะสายเน็ตเวิร์ก สายดาต้าเบส สายโปรแกรมเมอร์ หรือสายบริหาร ต้องรู้จักวิเคราะห์ให้เป็น แยกแยะ ปัญหา และออกแบบแนวทางแก้ไขปัญหาให้ได้ จำไว้ว่าทุกปัญหาทางไอที รากฐานมาจากการแก้ไขปัญหาพื้นฐานทั้งสิ้น ศาสตร์ทั้งหมดของโลกไอที มาทีหลังเสมอ หมายความว่า ปัญหาทั้งหมดที่ไอทีแก้ไขได้นั้น มันมีหลักการและวิธีการแก้ไขอยู่แล้วแม้ไม่มีไอทีเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น เวลาคิด วิเคราะห์ แก้ไขปัญหา จงเอาไอทีออกไป แล้วแก้ไขปัญหาด้วยหลักพื้นฐาน เมื่อได้แนวทางแก้ไขแล้ว ค่อยเอาไอทีเข้ามาจับ ปรับ ให้เหมาะสม
-------------------------------------------------------
กลับมาตอบคำถาม เรียนยากไหม
จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย
ยากคือน้องอาจไม่มีใจรักด้านนี้มาเรียนตามเพื่อน หรือไม่รู้จะเรียนอะไร คิดว่าสายเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์แล้วที่บ้านมีคอมก็มาเรียนแบบไม่ได้วิเคราะห์ตัวเอง และอีกประเด็นคือ ขี้เกียจ ไม่ทำงานส่ง พวกประเภทชอบพอกหางหมู พวกนี้ก็จะบอกว่ายาก งานเยอะ
ง่ายคือ คนที่มีหัวทางด้านนี้อยู่แล้วคือ ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อาจารย์อาจไม่ได้สอนก็เรียนรู้ด้วยตัวเอง เพื่อนถามอะไรก็ตอบได้ รอบรู้ว่างั้น เป็นคนทันโลกติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลา และแน่นอน ความขยันมันก็จะตามมาโดยอัตโนมัติ คือรู้ตัวเองว่ามาเรียนทำไม จบแล้วคือมีอาชีพในฝันรอไว้แล้ว ได้ไม่ได้อีกเรื่องหนึงนะ
อาจะจะสงสัยว่าแล้วผู้เขียนบล็อคนี้เป็นประเภทไหน ขอบอกว่ากลางๆ มีหัวด้านนี้แต่ไม่ถึงกับรอบรู้ทุกเรื่อง แต่ก็ไม่พอกหางหมู ส่งงานตามกำหนดตลอด นะค่ะ มีคำถามอะไรส่วนมากก็จะถามอาจารย์โดยตรงเลย อย่ากลัวการเข้าหาอาจารย์นะ เพราะเข้าหาบ่อย ๆ ก็เหมือนการให้อาจารย์รับรู้ความคืบหน้าและ 90% งานของคนที่เข้าหาอาจารย์มักจะออกมาเหนือกว่าพวกที่ อยู่เฉยๆ เหมือนเก่งแต่ก็ไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นถามทันทีเมื่อไม่เข้าใจ คำถามโง่ๆ ยังถามได้ เพราะอาจารย์ที่นี้ใจดี บางทีการที่เราถามยังเป็นกุศลให้เพื่อน พวกไม่รู้และไม่กล้าถาม เราคิดลองคิดว่าเรามาเอาความรู้ แลกกับการจ่ายค่าเทอม ถ้าไม่เคลียร์ เราก็ขาดทุน ก็เคยชอบนะเวลาอาจาย์ไม่อยู่ วันนี้หยุด 5555 แต่อยากให้ลองคิดกลับดูใหม่ ว่าเรามาเรียนทำไม จะได้มีเป้าหมายหลัก อะไรควรทำก่อนทำหลัง ไม่ใช้งานจะส่งพรุ่งนี้ นั่งทำคืนนี้ อาจจะเสร็จ แต่คุณภาพอ่ะไม่มี อันนี้ประมาแล้ว อาจารย์ถามก็ตอบไม่ได้ เวลาเค้าก็ให้มาพอสมควร แต่ไม่จัสรรเอง มัวแต่เที่ยว อิิอิแต่ตอนนี้ไม่แล้ว คิดได้แล้ว เลยมาบอกต่อกันนะค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น